หางหมูทำอะไรได้บ้าง วัตถุดิบธรรมดาที่อร่อยเกินคาด

หางหมู ชิ้นส่วนที่หลายคนมองข้าม แต่นำมาทำอาหารได้หลากหลาย

หางหมู ถือว่าเป็นวัตถุดิบที่หลายคนมองข้าม แม้จะมีเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่และทำอาหารได้หลายเมนู แต่คนส่วนมากเลือกที่จะไม่ซื้อหางหมูมาทำอาหาร เพราะไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ และเป็นชิ้นส่วนที่ไม่คุ้นเคย ทำให้บางคนรู้สึกว่า หางหมู มีรูปร่างที่แปลก ดูไม่สะอาด และใช้เวลานานในการทำ เพื่อให้เนื้อที่ทั้งนุ่มและได้รสชาติที่ต้องการ แต่ใครจะรู้ว่าวัตถุดิบอย่าง “หางหมู” สามารถสร้างสรรค์อาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเมนูหางหมูต้ม หางหมูพะโล้ หางหมูตุ๋น หางหมูย่าง และหางหมูทอด แถมยังให้ความอร่อยที่ไม่ธรรมดาอีก วันนี้เราเลยรวม 5 เมนูยอดฮิตที่ทำจากหางหมู มาแนะนำให้กับทุกคนอ่านในบทความนี้กัน รับรองว่าคุณจะมองหางหมูเปลี่ยนไปแน่นอน 5 เมนูหางหมูสุดสร้างสรรค์ อร่อยกว่าที่คุณคิด แม้หางหมูจะเป็นชิ้นส่วนของหางที่ยื่นออกมาจากตัวหมู แต่ก็ใช่ว่าจะนำมาทำอาหารได้เพียงส่วนเดียว แต่ความจริงแล้วหางหมูมีหลายส่วนที่นำมาทำอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหาง ไขมัน เอ็นและหนังหมู ด้วยความที่หางหมูมีเนื้อสัมผัสที่เหนียว นุ่ม และหนึบ ทำให้เป็นที่นิยมของอาหารประเภทต้ม ตุ๋น ย่าง และทอด ส่วนมากจะเน้นเรื่องของไขมันและหนังหมูเป็นหลัก ถ้าใครชอบสายชอบมันหมู หรือหนังหมู จะมีเมนูชื่นชอบของใครกันบ้างนั้น ตามไปดูเลย หางหมูต้ม หางหมูต้ม ถ้าต้มจนได้ที่ จะได้เนื้อสัมผัสที่มีทั้งความหนึบ นุ่ม จากหางหมูที่เปื่อย ในน้ำซุปร้อน ๆ พร้อมกับใส่หัวหอม ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด และตัดเลี่ยนด้วยพริกขี้หนู น้ำมะนาวเล็กน้อย ทำให้ได้รสที่กลมกล่อม แถมยังได้ความอร่อยไปในตัว เมนูนี้เหมาะกับคนที่ชอบความนุ่ม หนึบ และเน้นเอ็นล้วน ๆ สายชอบทานของเผ็ด หรือคนที่มองหาเมนูอร่อยที่มีราคาถูก ไม่แพงมาก ประหยัดต้นทุน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน สัมผัสนุ่ม หนึบแบบนี้ หางหมูต้ม ตอบโจทย์มาก หางหมูพะโล้ หางหมูพะโล้  ถึงจะเป็นเมนูธรรมดาของแต่ละบ้านแต่เต็มไปด้วยความพิเศษที่มีทั้งความกลมกล่อม และกลิ่นหอมจากเครื่องปรุงอย่างซีอิ๊ว น้ำตาลปิ๊บ รวมทั้งเครื่องของพะโล้สูตรดั้งเดิม ทำให้มีรสชาติของเครื่องเทศที่โดดเด่น มีเนื้อสัมผัสที่เปื่อย นุ่ม และได้รสชาติความเข้มข้นของหางหมูพะโล้แบบเต็ม ๆ ทั้งความหวาน ความมัน และความเค็ม ถ้ากินกับข้าวสวยร้อน ๆ กำลังดี อร่อยไปกับเมนูธรรมดาของทุกบ้าน ได้ทุกวันที่แม้จะทำกินกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ หางหมูตุ๋น แค่เอ่ยถึงเมนูอย่าง หางหมูตุ๋น ก็รู้แล้วว่าต้องใช้เวลานานในการตุ๋น และเคี่ยว เพื่อให้เนื้อและเอ็นของหางหมูออกมานุ่มเหมาะกับเมนูอย่างหางหมูตุ๋นยาจีน หรือจะใส่ขิงแทนลงในน้ำตอนตุ๋นก็ได้ เพราะจะช่วยเพิ่มความหอมและความหวานจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างสมุนไพร ทำให้หางหมูตุ๋นเหมาะกับสายรักสุขภาพ ต้องการบำรุงร่างกาย ผู้สูงอายุ หรือคนที่ชอบเนื้อสัมผัสที่มีทั้งความนุ่ม หนึบ และเปื่อยง่ายอยู่ในตัว ถือว่าเป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกายไปพร้อม ๆ กันก็ได้ประโยชน์ที่ต่างกันไปอีกแบบ หางหมูย่าง หางหมูย่าง แม้จะไม่ใช่เมนูยอดฮิตเหมือนกับคอหมูย่าง แต่ก็เด่นในเรื่องของเนื้อสัมผัสไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเรื่องของความนุ่ม หนึบ และความมันของหางหมูที่กำลังดี วิธีการทำให้หางหมูย่างให้อร่อยนั้น ทำได้ไม่ยาก เพียงเริ่มจากการผสมซอส หมักหางหมู ก่อนจะนำไปย่างบนเตา ได้ทั้งความอร่อย ความนุ่ม หนึบกำลังดี  และกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเตาถ่าน เวลากินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วเข้ากันมาก เหมาะกับเป็นเมนูสำหรับสายปิ้งย่าง ต้องลองถ้าได้ลองแล้วอร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลย หางหมูทอด หางหมูทอด วัตถุดิบที่หลายคนคิดไม่ถึงว่าจะนำมาทำอาหารแล้วอร่อย เพียงแค่รู้วิธีล้างให้สะอาด และหมักเครื่องเล็กน้อย ก่อนจะลงกระทะทอดให้ได้หางหมูที่มีความมัน กรอบ และนุ่มกำลังดีแบบนี้แล้ว ยังได้กลิ่นหอมของหางหมูที่พึ่งออกจากกระทะมาอีก ถือว่าเป็นเมนูหนึ่งที่หลายคนชอบ จะกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดเป็นเครื่องเคียงก็ลงตัวได้ ไม่ต้องกังวลเลย  เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อสัมผัสมัน หนึบ สามารถกินได้เรื่อย  ๆ และไม่เลี่ยนจนเกินไป หางหมูสะอาดได้ง่ายๆ เพียงแค่รู้วิธีทำ ก่อนจะไปรู้ว่าวัตถุดิบที่คนมองข้ามอย่าง “หางหมู” สามารถทำอาหารสุดพิเศษอะไรได้บ้าง เรามาเริ่มจากขั้นตอนการล้างหางหมูให้สะอาดกันก่อนดีกว่า เพียงแค่รู้วิธีล้างหางหมูไม่กี่ขั้นตอน ประหยัดทั้งเวลาแถมยังได้วัตถุดิบที่สะอาดก่อนนำไปทำอาหารง่ายๆ  4  ขั้นตอนนี้ ล้างหางหมูด้วยน้ำสะอาด พร้อมทั้งใช้มีดขูดเบา ๆ เพื่อล้างคราบเลือด เมือก และสิ่งสกปรกต่าง ๆ นำหางหมูมาขยำกับเกลือ และแป้งมัน เพื่อลดกลิ่นคาว และเมือกที่ติดอยู่บนหางหมูก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด แช่หางหมูในน้ำส้มสายชู 2 – 3 ช้อนโต๊ะ ก่อนจะทิ้งไว้ 15 – 20 นาที นำหางหมูมาต้มในน้ำเดือดที่ใส่สมุนไพร ทั้งขิง ตะไคร้ และใบมะกรูดไว้แล้ว ประมาณ 3 – 5 นาที Tips ควรรู้: เคล็ดลับล้างหางหมูยังไง ให้สะอาด หายห่วง! หั่นหางหมูเป็นท่อน ๆ ก่อนล้าง จะทำให้ล้างหางหมูได้สะอาด และทั่วทั้งชิ้นมากกว่า ถ้าหางหมูมีขนติดมา ให้ใช้มีด หรือเผาด้วยไฟอ่อน ๆ ก่อนล้างออก หางหมู ถ้าเผลอล้างไปแล้ว แต่ยังไม่ใช้ทำอาหาร ให้ใช้ผ้าสะอาดซับจนแห้ง ก่อนจะนำเข้าตู้เย็น หรือแช่แข็ง หางหมูสด ซื้อที่ไหนดี ง่ายนิดเดียว! คิดว่าหลายคนน่าจะเคยเจอปัญหา อยากทำมื้ออาหารสุดอร่อยจากหางหมู แต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน บางคนวิ่งวุ่นหาจนทั่วแต่ก็ไม่มี จนต้องล้มเลิกเมนูจากหางหมูไป เพราะจะไปซื้อที่ห้าง หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตต้องใช้เวลานานแน่ ๆ กว่าจะขับรถ และเดินหาอีก แต่ต่อจากนี้เรื่องยาก ๆ จะหายไป เพราะไม่ว่าใครก็สามารถหาซื้อหางหมูสดได้ง่าย ๆ แล้วทั้งร้านขายเนื้อหมูใกล้บ้านคุณอย่าง “หมูอินเตอร์” ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เจอหางหมูที่คุณต้องการ รับรองว่าที่เรามีของครบจบที่เดียวแน่นอน หาซื้อหางหมูได้ที่ “หมูอินเตอร์” ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ โซนภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ น่าน และสุโขทัย สำหรับใครที่ไม่อยากออกบ้าน สั่งหางหมูทางออนไลน์ก็ยังได้ สะดวกทั้งเวลา และประหยัดงบในมือด้วย อยู่กับเรื่องหางหมูมาทั้งเรื่องแล้ว ถ้าใครกำลังมองหาวัตถุดิบใหม่ ที่ไม่ซ้ำและจำเจ เชื่อว่าพออ่านมาถึงตรงนี้ “หางหมู” อาจจะเป็นหนึ่งคำตอบที่คุ้มค่า เพราะไม่ว่าจะทำเมนูหางหมูต้ม พะโล้ ตุ๋น ย่าง หรือทอด ก็ทำให้คุณได้เนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ และหลากหลาย แค่ลองเปิดใจให้กับวัตถุดิบที่หลายคนมองข้ามจะทำให้รู้ว่าความจริงแล้ว “หางหมู” สามารถทำอาหารได้มากกว่าที่คุณคิด Q&A เรื่องหมูหมู ของหางหมูที่คุณยังไม่รู้? ยังมีเรื่องอะไรอีกของวัตถุดิบอย่าง “หางหมู” ที่คุณยังไม่รู้ ถ้ายังนึกไม่ออก วันนี้เรารวบรวม 6 คำถามยอดนิยมที่ใครหลายคนสงสัยว่าวัตถุดิบนี้จะซื้อมาทำอะไรได้หลากหลายจริงหรือ ไว้ในบทความเรื่องนี้แล้ว ตามไปอ่านกัน! Q : หางหมูทำอะไรได้บ้าง A : เห็นขึ้นชื่อว่า “หางหมู” แบบนี้ทำอาหารได้หลายอย่างนะ ไม่ว่าจะเป็นหางหมูต้ม หางหมูพะโล้ หางหมูตุ๋นยาจีน หางหมูย่าง และหางหมูทอด จะทำด้วยวิธีไหนก็ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการทั้งนุ่ม และหนึบ ไม่แพ้กับส่วนอื่นของเนื้อหมูเลย Q : วิธีล้างหางหมูให้สะอาดต้องทำยังไง A : วิธีล้างหางหมูทำตามได้ง่าย ๆ คือ ล้างหางหมูด้วยน้ำสะอาดและใช้มีดขูดเบา ๆ เพื่อล้างคราบเลือดและเมือก หลังจากนั้นเลือกดับกลิ่นคาวของหางหมูด้วยวิธีใดก็ได้ ไม่ว่าจะนำมาขยำเกลือ หรือแป้งมัน แช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้ 15 – 20 นาที ก่อนจะนำมาต้มในน้ำเดือดที่มีทั้งขิง ตะไคร้ และใบมะกรูด เพื่อลดกลิ่นคาวและเพิ่มความหอมให้กับหางหมู Q : หางหมูดีต่อสุขภาพจริงไหม A : หางหมูดีต่อสุขภาพในบางเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคอลลาเจนจากหนังและเอ็นของหางหมู และช่วยในการบำรุงผิว ข้อ และกล้ามเนื้อ เหมาะกับผู้สูงอายุ และคนที่ต้องการเสริมโปรตีน และข้อต่อ แต่ควรระวังเรื่องการกิน เพราะต้องกินหางหมูในปริมาณที่เหมาะสม Q : หางหมูหาซื้อได้ที่ไหน A : หางหมูสามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านขายหมู เช่น หมูอินเตอร์ มาที่นี่รับรองว่าครบจบในที่เดียวแน่นอน แถมราคายังประหยัดงบในกระเป๋าได้อีก Q : หางหมูเหมาะกับใครบ้าง A : เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อสัมผัสที่เหนียว นุ่ม และหนึบของหนังหมูเป็นส่วนใหญ่ หรือคนที่ชอบอาหารประเภทต้ม ตุ๋น ย่าง และทอด เพราะทำให้สร้างสรรค์เมนูออกมาได้หลายอย่าง Q : ทำไมหลายคนไม่นิยมซื้อหางหมู A : ด้วยความที่หางหมูมีรูปร่างที่แปลก ไม่คุ้นตา และคิดว่าไม่สะอาด ทำให้คนส่วนมากไม่นิยมซื้อมาทำอาหาร รวมทั้งไม่รู้วิธีการทำความสะอาด และทำให้เนื้อหาหมูนุ่ม แต่จริง ๆ แล้วถ้ารู้วิธีการล้าง และทำให้เนื้อหางหมูนุ่มก็จะกลายเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับเราเลย

เลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วน ทำเมนูไหนก็ปัง

การเลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วนคือเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้เมนูอาหารอร่อยลงตัว

เคยเป็นมั้ย หลายครั้งเวลาที่ไปตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต เรามักจะใช้เวลานานในการเลือกเนื้อหมู ยืนเลือกแล้วเลือกอีก แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า เนื้อหมูส่วนไหนอร่อยที่สุด บางครั้งก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าเนื้อหมูส่วนไหนจะทำอาหารได้อร่อย และคุ้มค่ามากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งของสายทำอาหาร รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า กว่าจะเลือกวัตถุดิบได้แต่ละครั้งนั้นต้องใช้เวลานานเป็นชั่วโมง เพื่อให้ได้ของดี และมีคุณภาพที่สุด งั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักแต่ละส่วนของหมูว่าเนื้อหมูส่วนไหนอร่อยที่สุด พร้อมกับตารางแมตช์เมนูทอด ย่าง และตุ๋น เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูที่อร่อย คุ้มค่าในทุกมื้ออาหารแล้ว เลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วน เริ่มจากรู้จัก “แผนผังชิ้นส่วนของหมู” กันก่อนทำเมนูสุดอร่อย! ก่อนจะเลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วน แต่ละส่วนไปทำอาหารให้อร่อย มารู้จักกับชิ้นส่วนหลัก ๆ ของหมูกันก่อนว่ามีชิ้นส่วนไหนบ้าง แต่ละส่วนมีเนื้อสัมผัสยังไงบ้าง ถึงจะได้เมนูสุดอร่อยในมื้อธรรมดานี้ ตามมาดูกันเลย สันในหมู ถ้านึกถึง สันในหมู ต้องนึกถึงความนุ่มอย่างแน่นอน เนื้อแน่น ไม่เหนียว มีไขมันน้อยกว่าส่วนอื่นของเนื้อหมู ทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น หมูอบ หมูย่าง หมูผัดน้ำมันหอย หรือหมูสเต๊ก หาซื้อง่าย ราคาจะอยู่ที่ 140-170 บาท นำมาทำอาหารแล้ว ซื้อไปแล้วไม่ผิดหวัง ถือว่าคุ้มค่าเรื่องปริมาณแน่นอน สันนอกหมู ส่วนมากสันนอกหมู จะเป็นเนื้อหมูล้วนที่ติดมันจากด้านนอกเล็กน้อย เนื้อแน่น ไขมันน้อย นุ่มแต่ไม่เหนียวจนไป นำมาทำได้หลากหลายเมนู ใช้เวลาไม่นานในการทำ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสันในหมูแล้ว ราคาของสันนอกหมูจะอยู่ที่ 150-165 บาท ต่างกันเพียงไม่กี่บาท ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบเนื้อแบบไหนมากกว่ากัน หมูสามชั้น หมูสามชั้น หนึ่งในเนื้อหมูที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความชุ่มฉ่ำของเนื้อ ด้วยความที่หมูสามชั้นมีไขมันค่อนข้างเยอะ ทำให้มีเนื้อมีความนุ่ม เคี้ยวสนุก และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์หลังทำอาหารเสร็จ เหมาะกับเมนูประเภททอด ย่าง และต้ม ไม่ว่าจะเป็น หมูกรอบ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ที่กลายเป็นของโปรดใครหลาย ๆ คน ราคาหมูสามชั้นจะอยู่ที่ 140 บาทขึ้นไป  เนื้อส่วนนี้ราคาจะแพงกว่าส่วนอื่น แต่ด้วยรสชาติและนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ถือว่าคุ้มค่า แน่นอน ทำให้หมูสามชั้นเป็นวัตถุดิบที่ตอบโจทย์ของพ่อค้าแม่ค้า ร้านอาหาร และสายทำอาหารทุกบ้าน สะโพกหมู สะโพกหมู เป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพ ต้องการเน้นเนื้อหมูมีไขมันแทรกเล็กน้อย ส่วนมากสะโพกหมู เนื้อจะมีความแน่น เวลาเคี้ยวจะได้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อที่เต็มคำ ถ้ารู้จักวิธีการทำอย่างดีจะทำให้เนื้อไม่เหนียว และยังได้ความอร่อยของเนื้อสะโพกหมูอยู่  ราคาของสะโพกหมูจะอยู่ที่ 110-113 บาท เรียกได้ว่า ราคาไม่แพงเลย  พอเทียบกับปริมาณของเนื้อที่ได้ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของสายรักสุขภาพแน่นอนในการเลือกมาทำอาหารแต่ละมื้อ ขาหมู ขาหมู วัตถุดิบที่มีความพิเศษในเรื่องของความเหนียว นุ่ม หนังหนาและมีเอ็นแทรก ขาหมูเลยเป็นเนื้อที่มีปริมาณของไขมันค่อนข้างมาก ควรใช้การตุ๋น และเคี่ยวด้วยเวลานาน ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มละลายในปาก ราคาของขาหมูอยู่ที่ 90-110 บาท ถือว่าไม่แพง เหมาะกับเมนูอาหารที่ทำเป็นหม้อใหญ่ หรือแบ่งกันกินหลายคน ด้วยเนื้อสัมผัสของขาหมูที่ทั้งนุ่ม ละมุน หนึบหนับ ทำให้ขาหมูเป็นหนึ่งในวัตถุดิบของสายกินที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด! หัวหมู หัวหมู วัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นหนัง แก้ม ลิ้น และหูของหมู แต่ละส่วนล้วนมีไขมันแทรกอยู่ ทำให้เนื้อสัมผัสมีความเหนียว นุ่ม และหนึบเฉพาะตัว เหมาะมากกับถ้าจะนำไปนึ่ง ตุ๋น และเคี่ยว หรือทำเป็นพะโล้ จะทำให้ได้เนื้อที่นุ่ม ละลายในปาก แถมยังได้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมมากขึ้น ส่วนมากราคาของหัวหมูจะอยู่ที่ 350-550 บาท ถือว่าไม่แพง เพราะปริมาณที่ได้คุ้มค่าต่อราคาที่ซื้อ หัวหมู 1 หัว สามารถนำแต่ละส่วนไปทำอาหารได้หลายเมนูรวมทั้งใช้ในวันงานสำคัญต่าง ๆ อย่างเทศกาลไหว้เจ้า วันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ ก็ได้ด้วย คอหมู คอหมู เป็นส่วนที่มีความพิเศษและจุดเด่น คือ ความนุ่มและความชุ่มฉ่ำของเนื้อ เพราะมีไขมันแทรกอยู่ทั่วชิ้น ทำให้เนื้อไม่แห้ง และมีกลิ่นหอมเวลานำมาทอด และย่าง หรือที่รู้จักกันในเมนูคอหมูย่าง คอหมูทอดที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม ส่วนมากคอหมูจะอยู่ที่140-160 บาท ราคาถือว่าอยู่กลาง ๆ แต่พอนำมาทำอาหารบอกได้เลยว่า คุ้มค่า เพราะได้ทั้งคุณภาพและรสชาติที่ดีจากคอหมู ทำให้สมกับเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ของเนื้อหมูที่กินง่าย และอร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลย หนังหมู หนังหมู อีกหนึ่งวัตถุดิบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีเนื้อสัมผัสที่เหนียว และหนึบ เพราะมีไขมันค่อนข้างเยอะ เวลานำไปทำอาหารด้วยการต้ม เคี่ยว และนำไปทอดให้กรอบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูแคบหมู หนังหมูทอดกรอบ หรือหนังหมูต้มพะโล้ทำให้ได้รสสัมผัสที่ไม่เหมือนส่วนอื่นของเนื้อหมู ราคาของหนังหมูอยู่ที่ 50-70 บาท เรียกได้ว่า คุ้มค่า และราคาถูกมาก เวลาเทียบกับอาหารที่นำไปแปรรูปแล้ว ด้วยความเหนียว และหนึบของหนังหมู ทำให้กลายเป็นวัตถุดิบที่ถูกใจสายอาหาร และสายกินของจุกจิกแน่นอน ซี่โครงหมู ถ้าพูดถึง ซี่โครงหมู ต้องนึกถึงความนุ่ม หนึบ และความชุ่มฉ่ำจากไขมันและกระดูก เวลานำมาทำอาหารด้วยวิธีการตุ๋น อบ ย่าง หรือต้ม จะทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นมากขึ้น ซี่โครงหมูมีหลายขนาดไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงอ่อน ก็จะมีเนื้อที่นุ่ม และเคี้ยวง่าย ส่วนซี่โครงใหญ่ จะมีกระดูกเยอะ ทำอาหารยอดฮิตได้หลายเมนูเลยทั้ง ซี่โครงหมูย่าง ซี่โครงอบน้ำผึ้ง หรือ ซี่โครงตุ๋นยาจีน ส่วนมากราคาของซี่โครงหมูจะขึ้นอยู่กับซี่โครงหมูแต่ละชนิด ถือว่าไม่แพง แถมยังคุ้มค่า พร้อมทั้งให้กลิ่นหอมในอาหาร ตรงนี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินอาหารจนวางช้อนไม่ลงแน่นอน วิธีเลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วน ทำเมนูไหนก็อร่อย: ทอด ย่าง ตุ๋น ครบ! อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจยังลังเลว่าเนื้อหมูแต่ละส่วน เหมาะกับการปรุงแบบไหน ในบทความนี้ เดี๋ยวเราจะพาไปดูวิธีจับคู่เนื้อหมูแต่ละส่วน กับ วิธีทำอาหาร 3 แบบยอดนิยมอย่างทอด ย่าง และตุ๋น เพื่อทำให้ได้คำตอบว่าเนื้อหมูส่วนไหนอร่อยที่สุดเวลานำมาอาหารในแต่ละมื้อ เรารวมไว้ในตารางให้แล้ว ไปดูกันเลย ตารางแมตช์เนื้อหมู: ทอด vs ย่าง vs ตุ๋น เหมาะกับเมนูอะไรบ้าง? ส่วนของเนื้อหมู เมนูทอด เมนูย่าง เมนูตุ๋น สันในหมู ✅ เนื้อนุ่ม หั่นบาง ✅✅ เนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอม ❌ ไม่นิยมใช้ เนื้อแห้ง ไม่นุ่ม สันนอกหมู ✅ เนื้อแน่น ✅ เนื้อแน่น เคี้ยวเพลิน ❌ เนื้อแข็ง ถ้าใช้เวลาตุ๋นไม่นาน สันคอหมู ✅ เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ ⭐ เนื้อนุ่ม อร่อยที่สุด ❌ ไม่เหมาะกับการตุ๋น หมูสามชั้น ⭐ กรอบ ติดมัน เคี้ยวเพลิน ✅ เนื้อชุ่มฉ่ำ ติดมันกำลังพอดี ⭐ เนื้อเปื่อย นุ่ม ละลายในปาก สะโพกหมู ✅ เนื้อแน่น ไขมันน้อย ❌ เนื้อแห้งง่าย เพราะไขมันน้อย ⭐ เนื้อนุ่มกำลังดี ขาหมู ❌ ไม่ค่อยใช้ ❌ ไม่เหมาะกับการย่าง ⭐⭐ เนื้อและหนังเปื่อย นุ่ม หัวหมู ❌ ทอดยาก เนื้อไม่สม่ำเสมอกัน ❌ ไม่ค่อยใช้ ⭐⭐ ตุ๋นพะโล้ เนื้อเปื่อย นุ่ม หนึบ คอหมู ✅ หอม กรอบนอกนุ่มใน ⭐ เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ เหมาะที่สุด ❌ ไม่ค่อยใช้ หนังหมู ⭐ ทอดกรอบอร่อยที่สุด ❌ ไม่ค่อยใช้ เนื้ออาจจะเหนียว ✅ ได้เนื้อที่มีความหนึบ และมัน ซี่โครงหมู ❌ ไม่นิยมทอด กระดูกเยอะ ✅ เนื้อมันพอดี ย่างได้กลิ่นหอม ⭐⭐ เนื้อนุ่ม พร้อมได้น้ำซุปเข้มข้น การเลือกเนื้อหมูมาทำอาหารให้อร่อยนั้นไม่ยาก แค่เรารู้จักแต่ละส่วนของหมู ก็ทำให้รู้ว่าเนื้อหมูส่วนไหนอร่อยที่สุดเวลานำมาทำอาหาร พร้อมกับรู้ว่าแต่ละส่วนเหมาะกับวิธีการปรุงอาหารแบบไหนบ้าง ไม่ว่าจะนำมาทอด ย่าง หรือตุ๋นก็ทำให้ได้เมนูสุดอร่อย พร้อมกับเนื้อที่มีความนุ่ม ละมุน และละลายในปากทุกคำ จนต้องวางช้อนไม่ลงแน่นอน ถ้าเลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วนตั้งแต่แรกก็ทำให้ได้เมนูแสนอร่อยโดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย แถมยังได้อาหารสุดพิเศษในแต่ละมื้อด้วย และถ้าอยากให้เนื้อหมูละลายในปาก ลองดู 5 สูตรหมักเนื้อหมูให้นุ่มภายใน 10 นาที ใช้ได้กับทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นสันคอ สันใน หรือสามชั้น เนื้อนุ่มแน่นอน ต้องลอง

5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม 10 นาที เคล็ดลับละลายในปากทุกเมนู

5 สูตรหมักหมูนุ่มใน 10 นาที

หมักหมูได้ไม่ยาก 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม เปลี่ยนจากเนื้อหมูธรรมดาให้กลายเป็นเนื้อหมูแสนอร่อยได้ง่าย ๆ ต้องลอง เชื่อว่าหนึ่งในวัตถุดิบที่นิยมของทุกบ้าน คงพลาด “เนื้อหมู” ไปไม่ได้ เพราะเป็นวัตถุดิบที่หาง่าย ทำได้ทุกเมนู ตั้งแต่มื้อธรรมดาจนถึงมื้อพิเศษ แต่บ่อยครั้งหลายคนเจอปัญหาเนื้อหมูแห้ง เหนียว และแข็งจนทำให้มื้ออาหารแสนพิเศษต้องจบลงด้วยมื้อที่ไม่อร่อยแทน แล้วจะทำยังไงให้จากเนื้อหมูธรรมดากลายเป็นหมูนุ่มสุดอร่อย วันนี้หมูอินเตอร์รวม 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม หมักง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย มาแนะนำสายชอบกินชาบู หมูกระทะ รับรองไม่ว่าเมนูไหนก็เอาอยู่ อยากให้เนื้อหมูนุ่ม ควรเลือกเนื้อส่วนไหน ให้เข้ากับ 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม ก่อนจะไปถึงสูตรหมักหมูนุ่ม สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ “การเลือกเนื้อหมูที่เหมาะสม” เพราะเนื้อแต่ละส่วนให้สัมผัสที่ต่างกัน ถ้าเลือกถูก รับรองว่าสูตรหมักจะได้ผลแน่นอน มาเลือกเนื้อหมูให้ได้เนื้อที่นุ่ม อร่อยแบบมือโปรกันเลย เทคนิคเลือกเนื้อหมูสุดอร่อย ให้เหมาะกับสูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม ก่อนจะรู้วิธีหมักเนื้อหมูให้นุ่ม อร่อยโดนใจ ต้องเริ่มจากการเลือกเนื้อหมูที่สดใหม่ สะอาด และปลอดภัย สังเกตจาก 2 อย่างนี้ สีของเนื้อหมูสด ต้องมีสีแดงอมชมพู ผิวต้องมันลื่น ไม่เหนียว เวลากดลงบนเนื้อจะต้องคืนตัว สีไม่ซีด คล้ำ และเขียว ดังนั้นก่อนเลือกซื้อเนื้อหมูควรดูให้แน่ใจก่อนว่าเนื้อหมูได้คุณภาพ และปลอดภัยต่อร่างกายของเราหรือไม่ กลิ่นของเนื้อหมู ต้องไม่มีกลิ่นเหม็น เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะไม่ว่าเราจะเดินเข้าไปเลือกซื้อหมูตามตลาดสด ร้านขายหมูสด หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต เพียงแค่ได้กลิ่นของเนื้อที่มีกลิ่นเหม็นลอยมา เราก็ตัดสินใจทันทีว่าจะไม่ซื้อเนื้อหมูจากร้านนี้แน่นอน และจะหันหลังกลับไปซื้อร้านอื่นแทน เนื้อหมูส่วนไหน เหมาะกับสูตรหมักเนื้อหมูนุ่มจนอร่อย นุ่ม ละลายในปาก สำหรับส่วนของเนื้อหมูที่จะนำมาหมักให้เนื้อนุ่ม เราขอแนะนำเนื้อหมูทั้งหมด 3 ส่วนที่หมักแล้วนุ่มแน่นอน  ทำอาหารในมื้อพิเศษได้ไม่ยาก พร้อมหาซื้อวัตถุดิบได้ง่าย สันคอหมู ส่วนที่เหมาะที่สุด เพราะมีไขมันแทรกในเนื้อ ใช้เวลาหมักไม่นาน นำไปทำอาหารจะได้เนื้อที่มีความนุ่ม ละลายในปาก รับรองถูกใจ สายปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ แน่นอน สันในหมู ส่วนที่ขึ้นชื่อว่านุ่มที่สุด จากทุกส่วนของหมู จะทำด้วยวิธีปิ้ง ย่าง ผัด และทอด ทำให้ได้เนื้อนุ่มที่แตกต่างกัน เวลานำมาหมักไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน ทำให้ไม่เหมาะกับเมนูหมูกระทะ เพราะถ้าสุกเกินไป เนื้อจะมีความแห้ง และแข็ง หมูสามชั้น หมูที่มีเนื้อ มัน และหนังสลับกันเป็นชั้น ๆ เหมาะกับการหมักก่อนนำมาทำอาหาร เพราะหมูสามชั้นมีรสชาติเข้มข้นขึ้นจากการหมักด้วยเครื่องปรุงรส ทำให้เหมาะกับการนำไปทอดหมูกรอบ หรือปิ้งย่างชาบู หมูกระทะก็ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มไปอีกแบบ แจก 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม ทำง่าย อร่อยทุกบ้าน รู้เรื่องวิธีการเลือกเนื้อหมูไปแล้ว งั้นหมูอินเตอร์ขอแนะนำ 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม จากนมสด สับปะรด โซดา กีวี่ และเอนไซม์ ใครที่กำลังเจอกับปัญหาการหมักหมูมากี่วิธีก็ไม่ยอมนุ่มสักที ตามมาดูเลยว่าทั้ง 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มนี้จะช่วยทำให้เนื้อหมูนุ่มได้จริงหรือไม่ บางทีอาจเปลี่ยนจากเรื่องยากในการหมักหมูให้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มด้วยนมสด การหมักหมูให้นุ่มด้วยนมสด เป็นวิธีที่ให้เนื้อหมูมีความนุ่มมากขึ้น แถมยังช่วยลดกลิ่นคาวของเนื้อหมูได้ วิธีหมักหมูด้วยนมสดนั้นเหมาะกับเนื้อที่มีไขมันไม่เยอะ เวลาที่หมักเนื้อหมูเสร็จเรียบร้อยแล้วนำมาทำอาหาร เนื้อหมูจะมีความนุ่ม และมีความหอมของนมสดมากขึ้น ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม นมสดจืด 120 กรัม วิธีหมักเนื้อหมู ขั้นตอนแรกนำเนื้อหมูที่เตรียมไว้ใส่ในถ้วยผสม หลังจากนั้นเทนมสดจืดลงไปให้ท่วมเนื้อหมู คลุกเคล้าเนื้อหมูและนมให้เข้ากัน หลังจากนั้นปรุงรสตามใจชอบ นำเนื้อหมูที่หมักไว้เข้าตู้เย็น 30-60 นาที หรือจะทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มด้วยสับปะรด อย่างที่รู้กันว่า “สับปะรด” ทำให้เนื้อหมูนุ่มได้เร็วขึ้น เพราะเนื้อสับปะรดจะมีเอนไซม์โบรมีเลน ทำหน้าที่ในการย่อยโปรตีน ทำให้จากเนื้อที่มีความเหนียว สามารถนุ่มลงเพียงใช้เวลาไม่กี่นาทีจะทำให้เนื้อหมูนุ่มและติดความหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ต้องระวังเรื่องเวลาจะใช้วิธีนี้ในการหมักเนื้อหมู ควรพักเนื้อหมูไม่เกิน 15 นาที เพราะเวลานำไปทำอาหาร จะทำให้เนื้อหมูเละได้ ใครที่ซื้อสับปะรดมาแล้วกำลังจะเน่า รีบเอามาหมักหมูด่วน ก่อนเสียดายแล้วต้องทิ้งลงถังขยะ ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม สับปะรดสุก 3 ช้อนโต๊ะ (บดละเอียด) หรือใช้น้ำสับปะรดสด 1/4 ถ้วย วิธีหมักเนื้อหมู ขั้นตอนแรกนำสับปะรดสุกมาบด หรือปั่นเป็นน้ำสับปะรด หลังจากนั้นนำเนื้อหมูที่เตรียมไว้ ปรุงรส และผสมกับสับปะรดที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าเนื้อหมูและเนื้อสับปะรดบดให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปปรุงรสให้เรียบร้อย นำเนื้อหมูที่หมักไว้แช่ตู้เย็น ทิ้งประมาณ 5-15 นาที พอครบเวลาสามารถนำไปทำอาหารต่อ สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มด้วยเบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดา ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของซอสหมักเนื้อต่าง ๆ หนึ่งในนั้นยังมีส่วนที่ช่วยให้เนื้อหมูนุ่มขึ้น และลดความเหนียวได้ดีเลย  การหมักด้วยวิธีนี้ ถือว่าเวิร์กมาก แต่ต้องระวังตอนหมักเนื้อหมู เพราะถ้าใส่เบกกิ้งโซดาในปริมาณที่มากเกินไป จากเนื้อหมูที่นุ่มขึ้น อาจได้ความขมติดมาด้วย ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ถ้วย วิธีหมักเนื้อหมูให้นุ่มด้วยเบกกิ้งโซดา (วัตถุดิบเป็นที่ต้องการของการทำขนมหวาน) ขั้นตอนแรกละลายเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาในถ้วยน้ำเปล่า นำเนื้อหมูที่เตรียมไว้แช่ลงในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา จากนั้นแช่ตู้เย็น และทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ย้ำว่าขั้นตอนนี้สำคัญมาก พอครบเวลาที่หมักให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2-3 รอบ ก่อนจะนำไปปรุงรส และทำอาหารต่อ สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มด้วยกีวี่ ขึ้นชื่อผลไม้ที่ได้ฉายาแห่ง “เชฟมือทอง” ของตระกูลผลไม้ คงหนีไม่พ้น “กีวี่” ที่ให้ประโยชน์กับร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เนื้อหมูนุ่ม เพราะในตัวของกีวี่มีเอนไซม์พิเศษอย่างแอคทินิดีน คอยช่วยทำหน้าที่ให้หมูของเรานุ่มเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามควรดูเวลาหมักเนื้อให้ไม่เกิน 15 นาทีเพราะอาจจะทำให้เนื้อเละได้เช่นเดียวกับการหมักด้วยสับปะรด ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม กีวี่หั่นชิ้น หรือสับ 100 กรัม วิธีหมักเนื้อหมูให้นุ่มด้วยผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่า “เชฟมือทอง” อย่างกีวี่ นำกีวี่ที่หั่น หรือสับไว้แล้ว ผสมกับเนื้อหมูที่เตรียมไว้ พร้อมใส่เครื่องปรุงรสให้เรียบร้อย หลังจากนั้นนำเนื้อหมูที่หมักไว้ไปแช่ตู้เย็น และทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาที ก่อนจะนำมาทำอาหารต่อ สูตรหมักเนื้อหมูนุ่มด้วยเอนไซม์ วิธีนี้จะใช้เอนไซม์ธรรมชาติ เช่น สับปะรด และมะละกอดิบ มาสกัดให้เป็นผงเอนไซม์ก่อนนำมาใช้ในการหมักเนื้อหมูให้นุ่ม ส่วนมากร้านอาหารนิยมใช้จนได้ฉายาว่า “วิธีหมักเนื้อหมูให้นุ่มแบบมืออาชีพ” เพราะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการหมักเนื้อเท่านั้น แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า การหมักด้วยผงเอนไซม์แช่ทิ้งไว้ข้ามคืนไม่ได้ เพราะจะทำให้เนื้อเละ และทำอาหารไม่อร่อยได้ เตือนแล้วนะ ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม ผงเอนไซม์จากสับปะรด และมะละกอดิบ 1/4 ช้อนชา วิธีหมักเนื้อหมูให้นุ่มด้วยผงเอนไซม์แบบมืออาชีพ เทผงเอนไซม์ลงบนเนื้อหมูที่เตรียมไว้พร้อมกับผสมให้เข้ากัน และทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นปรุงรสตามใจชอบ ตามสูตรของแต่ละคนได้เลย ก่อนจะนำมาหมักทิ้งไว้ 20-30 นาที และนำไปทำอาหารต่อ Q&A คำถามยอดฮิต เรื่องความปลอดภัยจาก 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม ทุกคนสงสัยแบบไหน เราก็สงสัยแบบนั้น งั้นให้หมูอินเตอร์ตอบ 4 คำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยจาก 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม  ตามไปดูกันเลย Q : ถ้าเราหมักเนื้อหมูไว้ สามารถทิ้งไว้ข้ามคืนได้ไหม? A : คำถามนี้เหมาะกับคนขี้ลืม หรือพนักงานประจำที่ไม่มีเวลา  ต้องบอกเลยว่า ทิ้งไว้ข้ามคืนได้  แต่ต้องเลือกวิธีหมักที่มีเอนไซม์ไม่เยอะ เช่น ใช้นมสดในการหมักแทน เพราะใช้เอนไซม์ที่มาจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ Q : หมูที่หมักเก็บไว้ในห้องปกติได้ไหม? A : ไม่ได้ ต้องแช่ตู้เย็นเท่านั้น  เพื่อช่วยยืดอายุของเนื้อหมูที่หมักให้นานขึ้น รวมทั้งป้องกันการโตของเชื้อแบคทีเรียด้วย Q : ผงเอนไซม์ที่ใช้หมักหมูให้นุ่มตามร้านอาหารปลอดภัยแค่ไหน? A : ปลอดภัยแน่นอน ถ้าใช้เอนไซม์  1/4 ช้อนชา ต่อ เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม  เพราะสกัดมาจากผลไม้ธรรมชาติอย่างสับปะรด และกีวี่ แต่อย่าใส่เยอะ และหมักนานเกินไป Q : แล้วถ้าหมักเนื้อหมูไว้หลายวัน เราจะรู้ได้ยังไงว่าเนื้อหมูที่หมักไว้ยังใช้ได้อยู่? A : ง่าย ๆ เลย ดูจากสี กลิ่น และผิวสัมผัส ถ้ามีสีคล้ำ กลิ่นเปรี้ยวแรง หรือมีถ้ามีกลื่น ให้ทิ้งทันที เพียงแค่รู้ 5 สูตรหมักเนื้อหมูนุ่ม เราก็สามารถทำได้ง่าย ๆ หาซื้อวัตถุดิบได้ไม่ยาก นอกจากการหมักเนื้อหมู ยังได้หลักการเลือกเนื้อหมูที่ทำให้หมูนุ่ม  พร้อมตบท้ายด้วยการไขคำตอบที่ทุกคนสงสัย เรียกได้ว่าขนความรู้กลับบ้านไปอย่างเต็มอิ่ม  อ่านมาถึงตรงนี้ เพียงแค่แวะมาที่หมูอินเตอร์ใกล้บ้านคุณ ทุกสาขา หรือทางสั่งออนไลน์ก็คิดเมนูแสนอร่อยได้แล้ว ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเนื้อหมูมาทำอะไรได้บ้างหลังจากหมักแล้ว ไม่อยากทิ้งเพราะเสียดายของ หมูอินเตอร์ขอแนะนำเมนูหมูกระทะ ชาบู และปิ้งย่าง รับรองว่าทานแล้วนุ่ม อร่อย เคี้ยวเพลิน รับรองติดใจแน่นอน

SME ธุรกิจขนาดเล็ก สู่ “หมูอินเตอร์” แบรนด์ท้องถิ่นระดับประเทศ

จาก SME ธุรกิจขนาดเล็ก สู่ “หมูอินเตอร์” แบรนด์ท้องถิ่นระดับประเทศ

การเริ่มต้น SME ธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจส่วนตัวได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด บางคนอาจคิดว่าจะเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ ได้ต้องใช้ทุนเป็นกำหนด ทุนก็สำคัญ แต่ด้วยปัจจุบันมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้ธุรกิจหลายครอบครัวไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้  เพราะแบบนี้เราจึงขอยกตัวอย่างบทเรียนสำคัญของคุณณรงค์ ธรรมจารี เจ้าของ “หมูอินเตอร์”  เป็นหนึ่งคนที่ยึดคำว่า “ SME สู้ มุ่งมั่น และอดทน” มาเป็นแรงผลักดันของความพยายามในการทำงาน บทเรียนชีวิตที่เริ่มต้นจาก SME ธุรกิจขนาดเล็ก สู่ ธุรกิจหมูอินเตอร์ เรื่องราวเริ่มต้นจากการเลี้ยงหมู 2 ตัว จนเกิดเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ แต่วันหนึ่งคุณณรงค์ตัดสินใจขายฟาร์มทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงแต่ โรงเชือดเล็ก ๆ เขาเริ่มทำอาชีพใหม่ คือ การตั้งแผงหมูหน้าบ้าน แผงเล็ก ๆ เอาหมูที่มาจากโรงเชือดของตนเองออกมาขาย แม้ราคาเนื้อหมูในช่วงนั้นจะตกลงมากแต่ก็อดทนทำ เพราะมีภาระอีกตั้งมากมายที่ต้องใช้กินใช้จ่าย ถ้าไม่ทำก็เท่ากับอดตาย เขาต้องอดทนยืนขาย สู้แดดสู้ฝนในแต่ละวัน บางวันก็ขายได้หลักร้อย บางวันก็ขายได้หลักพัน หลายครั้งคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นอาจพูดถึงคุณณรงค์ว่า “จบแล้วไอ้รงค์เอ๋ย บอกแล้วว่าอย่าขายฟาร์มไปก็ไม่เชื่อ” แต่สำหรับคุณณรงค์นั้น ใครจะนำเรื่องเขาไปพูดยังไงก็ไม่สำคัญ แต่เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็น นั่นเป็นทางเดียวที่จะลบคำสบประมาทเหล่านั้นได้ “อย่าปล่อยให้น้ำลายคนอื่นมาหยุดฝัน ทำลายอนาคตเราและครอบครัวเรา” จากประโยคที่ว่า “อย่าปล่อยให้น้ำลายของคนอื่นมาหยุดฝัน ทำลายอนาคตและครอบครัวของเรา” นั้น เป็นเรื่องจริง หลายคนคงเคยเจอกับคำพูดที่สบประมาทจากคนรอบข้างว่า… “บ้างก็ว่าทำไม่ได้หรอก”  “จะทำได้จริงเหรอ”  “จะคอยดูแล้วกัน” ฟังดูเผิน ๆ ประโยคที่พูดอาจจะดูเหมือนเป็นคำธรรมดา แต่ความจริงแล้วคนฟังจะจำไปตลอดชีวิต บางคนถึงขั้นล้มเลิกความคิดนั้นไป ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำด้วยซ้ำ คุณเสียใจได้ แต่อย่าลืมกลับเอาคำพูดเหล่านั้น กลับมาเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ ธุรกิจขนาดเล็ก ก้าวไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้เหมือนกับคำพูดของคุณณรงค์ที่เคยบอกไว้ แต่ไม่ว่าจะยังไง เขายังเชื่อมั่นเสมอว่า “โอกาส” และ “ความสำเร็จ” เกิด – ขึ้นได้ทุกวินาที ถ้าเราไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะมีอุปสรรคเข้ามาแบบไม่หยุด ไม่ว่าจะมาจากทางไหนก็ตาม จะทั้งซ้าย หรือ ขวา ก็ต้องผ่านไปให้ได้ เหมือนกับเหตุการณ์ตอนขายหมูสด แผงกำลังไปได้ดี แต่จู่ ๆ ก็ไม่มีหมูให้ขาย เพราะโรงเชือดไม่มีหมูมาเชือด ทำให้ต้องขอซื้อหมูจากชาวบ้านเอามาเชือดและนำมาขายเอง พร้อมกับเริ่มนำอาหารสัตว์กลับมาขายอีกครั้ง โดยได้แนวคิดมาจากเซลล์บริษัทที่ริเริ่มให้เขาหันกลับมาลองทำอาหารสัตว์ขายอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เริ่มไปสอบถามลูกค้าเก่าว่าใครเลี้ยงหมูที่ไหน เลี้ยงทั้งหมดกี่ตัว นำมาจดและเก็บข้อมูล พร้อมเสนอเงื่อนไขที่ว่าร้านเราขายอาหารสัตว์ ถ้าคุณสนใจก็มาซื้ออาหารร้านเราไป แล้วเราจะรับซื้อหมูของคุณกลับมา ตอนแรกก็เริ่มต้นทำเล็ก ๆ บ้านต่อบ้าน   สุดท้ายได้รับผลตอบกลับมากขึ้น คนสนใจเข้าร่วมโครงการเยอะขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่เคยเอาเปรียบลูกค้า  อะไรที่สามารถช่วยได้ ขอให้บอกเพราะเขาก็เหมือนคนในครอบครัว นั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของธุรกิจอาหารสัตว์ และครอบครัวเลี้ยงหมูของคุณณรงค์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าถ้าเราไม่แม้จะพยายาม และอดทนกับสิ่งที่กำลังเจออยู่นั้น ผลสำเร็จตรงหน้าก็ไม่มีมาให้เห็นอย่างแน่นอน ช่วงนั้นคำว่า “SME” คือ การเริ่มต้นทำธุรกิจขนาดเล็ก แต่สมัยนี้ไม่ว่าใครจะพูดถึงเอสเอ็มอีก็เข้าใจได้ง่ายว่าเป็นการทำธุรกิจขนาดเล็กของคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว ใช้ต้นทุนน้อยในการสร้าง ไม่ได้หวือหวา แต่จากหนังสือหมูอินเตอร์ ธุรกิจยอดขายพันล้านที่วิกฤตและความจนเป็นผู้สอน คุณณรงค์ ธรรมจารี เจ้าของร้านหมูอินเตอร์ขนาดใหญ่ ได้กล่าวว่า สำหรับคุณณรงค์นั้น SME อาจจะไม่เหมือนคนอื่น ไม่ใช่ธุรกิจ ไม่เคยมีใครสอน และหามีความหมายจากหนังสือเล่มไหนไม่ได้ ในความคิดของเขานั้น ได้ให้นิยามคำว่า SME ไว้ว่า S คือ ใจสู้ไม่ถอย M คือ มานะบากบั่น ไม่ยอมแพ้กับปัญหา หรืออุปสรรคต่าง ๆ   E คือ อดทนอย่างถึงที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้มีแรงผลักดันที่สำคัญ คือ “ความฝัน” ขึ้นชื่อว่าความฝัน มันไม่มีอะไรง่ายอย่างที่เราต้องการทุกอย่าง คุณณรงค์เชื่อว่าการฝันมีทั้งหมด 2 อย่าง คือ “เพ้อฝัน” และ “ใฝ่ฝัน” ทุกคนล้วนมีความฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากมีความสุขในแบบของตนเอง สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ อยากประสบความสำเร็จในการทำงาน การค้า หรือในด้านต่าง ๆ ตามที่เราหวังไว้ แต่ทำไมหลายคนถึงไปไม่ถึงเป้าหมาย ทำไมถึงทำไม่สำเร็จสักที หรือ… “เพราะอาจจะเช้าฝันอย่าง กลางวันฝันอีกอย่าง เย็นฝันอีกอย่าง” สรุปแล้วเพ้อฝันไปเรื่อย วางแผนว่าจะทำ และ ฝันมากเกินไป จนไม่ได้ลงมือทำในสิ่งที่คิดไว้ มันทำให้ไม่เกิดผลงานออกมาให้เห็น มีเพียงแต่ความฝัน และคำพูดที่ผ่านไปในแต่ละวันเท่านั้น ถ้าเปรียบกับสำนวนสุภาษิต คำพังเพยของไทย จะเรียกว่า ผลัดวันประกันพรุ่ง คิดไว้ว่าจะทำแต่สุดท้ายก็ไม่ลงมือทำ เขามักจะถามตัวเองอยู่เสมอว่า ทำไมผมเริ่มท้อ เริ่มถอดใจล่ะ “ปัญหาและวิกฤตที่เกิดขึ้น พระเจ้าส่งมาทดสอบเรานะ แล้วเราจะยอมแพ้เป็นถ่าน หรือจะสู้ให้ผ่านเป็นเพชรให้ได้” หลังจากนั้นเขาได้กลับมานั่งคิดว่าตนเองยังทำไม่ถูกวิธี กำลังหลงทาง หรืออดทนไม่พอกับสิ่งที่กำลังจะลงมือทำกันแน่ เขาจะยอมเป็นถ่านหรือเพชร แม้จะถูกเผาด้วยคาร์บอนเหมือนกันแต่การใช้ความร้อนต่างกัน ความทนทานก็ต่างกัน ให้เลือกว่าในชีวิตคุณอยากจะเป็นแบบไหน อยากจะทนความร้อนได้น้อย ยอมแพ้และถอยหลังไปเป็นถ่านธรรมดา ๆ พอถึงเวลาก็แตกหักไป หรือจะอดทน พยายาม รอเวลาคอยเป็นเพชรที่ล้ำค่า แต่แลกมาด้วยความลำบากและอดทนที่จะสู้ไปให้ถึงฝันที่ตั้งไว้ ระหว่างทางอาจจะเจอปัญหามากมายมาให้เราแก้ไขตลอดเวลา แต่สุดท้ายเชื่อเถอะว่า เราจะขอบคุณความยากที่ทำให้เราเก่งขึ้นได้ และก้าวนำคนอื่นไปได้หนึ่งก้าว เพราะความสำเร็จไม่มีทางลัด ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่มีทางได้มาอย่างง่ายดาย ทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้า คือ การเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา คนที่จะเป็นเพชรได้นั้น ต้องเรียนรู้ และลงมือทำอยู่ตลอดเวลา หมั่นหาความรู้ กล้าที่จะทำในสิ่งที่คิดไว้ และไม่ล้มเลิกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาตั้งแต่แรก กล้าที่จะยอมล้มเหลวไม่ว่าจะต้องทำอีกกี่ครั้ง ไม่กลัวกับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่ลงมือทำ สิ่งนี้จะทำให้ SME ธุรกิจขนาดเล็กของเราอยู่ในตลาด ถึงแม้จะพึ่งเริ่มทำธุรกิจก็ตาม ถ้าเราเริ่มต้นที่เรียนรู้ และพัฒนาไปข้างหน้าแบบไม่ย่ำอยู่กับที่ เชื่อในตัวเองรับรองว่า ธุรกิจของเรานั้นจะเป็นที่รู้จักได้แน่นอน เพียงแค่เราเชื่อมั่นในตัวเอง ลองสู้เหมือนกับคุณณรงค์ ธรรมจารี เจ้าของหมูอินเตอร์ ที่เริ่มต้นจากแผงขายหมูหน้าบ้าน มาเป็นร้านขายหมูติดแอร์ที่ลูกค้าต้องกลับมาซื้อซ้ำ ไม่ใช่แค่ร้านขายเนื้อหมูที่ติดแอร์แต่เป็นมากกว่าร้านที่เข้าใจลูกค้า สุดท้ายแล้วการจะเป็นเพชรนั้น ไม่ได้ใช้เวลาแค่ไม่วันก็ทำได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการทำ หรือขั้นตอนที่หลากหลาย ผ่านแรงกดดันในหลาย ๆ เรื่อง ต้องอดทน และทนทานต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ถ้าคุณมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้นแล้ว อย่าหยุดพยายาม อย่าละทิ้งความฝัน ลงมือทำ และคิดไว้เสมอว่าทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้านั้น จะทำให้คุณเริ่มเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ต้องพยายามให้กำลังกับตัวเอง พัฒนา และเรียนรู้อยู่เสมอ การที่เราพัฒนาอยู่เสมอนั้น จะทำให้คนรู้จักแบรนด์ หรือธุรกิจมากขึ้นในอนาคต คุณต้องเชื่อว่า… “ในโลกนี้…ไม่มีอะไรที่เกินปัญญา และความสามารถของมนุษย์” อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่ยอมแพ้ หรือท้อแท้กับการเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว ลองมาอ่านบทความนี้หวังว่า คุณจะได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากจุดเริ่มต้นของร้านขายหมูติดแอร์อย่าง “หมูอินเตอร์” ที่เริ่มต้นจากการเลี้ยงหมู 2 ตัว ใครจะคิดว่าการเริ่มต้นเล็ก ๆ แบบนี้จะพาคุณณรงค์ ธรรมจารี ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างร้านขายเนื้อหมูติดแอร์แห่งแรกของภาคเหนือที่ใครหลายคนรู้จักจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่หาแรงบันดาลใจในการทำธุจกิจ เชื่อได้ว่าคุณจะมองคำว่า SME เปลี่ยนไปว่าไม่ใช่แค่เป็นธุรกิจส่วนตัวเท่านั้น แต่จะเป็นคำว่า “SME สู้ ไม่ท้อต่ออุปสรรค มุ่งมั่น และอดทนจนถึงที่สุด”  “แล้วคุณล่ะ กำลังยอมเป็นถ่าน หรือสู้เพื่อเป็นเพชร”

Copyright © 2025 | MOOTINTER